เสื้อโปโลเริ่มจากกีฬาโปโล ช่วงศตวรรษ 19 นักกีฬาโปโลในIndiaภายใต้การปกครองอังกฤษต้องการเสื้อเคลื่อนไหวง่ายแทนเสื้อเชิ้ตเก่า ออกแบบเป็นเสื้อแขนสั้นมีปกคอและbuttons ระบายดีและดูดี นี่เป็นจุดเริ่มรากของpolo shirt

เสื้อโปโลสู่แฟชั่น ตั้งแต่ 1950s ผู้คนสวมใส่ในทุกวันไม่ใช่sport ยี่ห้อชั้นนำเช่นRalph Lauren ออกแบบให้ทันยุค สีสันและลายเพิ่มความน่าสนใจ และกึ่งทางการ ทุกวันนี้เสื้อโปโลเป็นไอเทมคลาสสิกที่ทุกบ้านมีในตู้

อนาคตของเสื้อโปโล
ด้วย ความนิยม ที่ เติบโต เสื้อโปโลยังคง มีที่ยืน ใน โลกของสไตล์ อนาคตอาจเห็นการใช้ผ้าสมัยใหม่ในเสื้อโปโล เช่น ผ้าป้องกันรังสี UV เพื่อ สนอง ไลฟ์สไตล์ ที่ พัฒนา

เสื้อโปโลเหมาะเพราะพกง่าย พับไว้ไม่ยับเยอะ ต่างจากเสื้อเชิ้ตที่ต้องดูแล ขนาดกระทัดรัดไม่เกะกะ ร้อนๆเปลี่ยนแล้วสดชื่น หยิบใส่ได้ไว มีติดรถคือทางเลือกดี

จุดเด่นอีกอย่างคือผ้าที่มักจะถ่ายเทความร้อนได้ดี ซึ่ง เข้ากับ สภาพอากาศ ที่ ไม่เหมือนกัน ตั้งแต่ หน้าร้อน ไปจนถึง ช่วงปลายฝนต้นหนาว ทำให้ ทุกคน สามารถ เลือกใช้ ได้โดยไม่ต้อง กังวล เรื่อง ความเข้ากัน

เลือกpolo shirtให้ลงตัว เริ่มจากเนื้อผ้าต้องใส่ดีและเย็น ผ้าฝ้ายคือตัวเลือกดีเพราะทนและไม่เหนียว blendเช่นpolyesterก็ยืดหยุ่น ลองจับว่าหนักไปมั้ย ถ้าใส่ชิลๆเลือกนุ่มๆ ถ้าเป็นทางการหาผ้าทรงสวย

**สำหรับคนที่ปรับตัวเก่งในทุกสถานการณ์ ปกเสื้อที่ผสมผสานและขนาดกลางคือตัวเลือก มันสามารถลงตัวทั้งวันจริงจังและวันชิล โทนสีที่เป็นกลาง เช่น น้ำตาลอ่อน จะช่วยเสริมความยืดหยุ่นในการใส่คู่ ทดลองใส่กับกางเกงเรียบร้อยเพื่อภาพลักษณ์ลงตัว ดีสำหรับบุคคลที่มักจะเปลี่ยนการแต่งตัวตลอดวัน**

การพกเสื้อโปโลมีประโยชน์จริง เจอเหตุไม่คาดฝัน ใส่ได้เลยทั้งcasualและsemi-formal ผ้าฝ้ายไม่อับ เผื่อเลอะก็ไว ใส่กับอะไรก็ดูดี พกติดรถคือความพร้อม

บางพิธีการยังยอมให้ใช้เสื้อโปโล ซึ่งแสดงถึง ความเป็นสากล ที่แทบไม่มี ชุด ชนิดไหนเทียบได้

รากฐานจากกีฬาสู่แฟชั่นสากล
เสื้อโปโลมี ที่มา จาก วงการกีฬา โดยเฉพาะ การแข่งโปโล ซึ่ง นักกีฬา ต้องการ เครื่องแต่งกาย ที่ คล่องตัว แต่ยัง มีสไตล์ ต่อมา René Lacoste นักเทนนิสชื่อดัง ได้ปรับปรุงให้ทันสมัย ทำให้มัน เปลี่ยนเป็น สัญลักษณ์ ของ การแต่งตัว ที่ เป็นสากล