คุณสมบัติ นี้ทำให้เสื้อโปโล เข้ากับ ทุกเพศ ไม่ว่า เด็ก หรือ ผู้หญิง ก็สามารถ ประยุกต์ ให้เข้ากับ รสนิยม ได้อย่าง ไม่ยุ่งยาก

เสื้อโปโลมีจุดเริ่มกีฬาโปโล ราวยุค 1800 ผู้เล่นโปโลในอินเดียที่เป็นอาณานิคมโดยอังกฤษต้องการเสื้อคล่องตัวกว่าshirtแบบดั้งเดิม นักกีฬาออกแบบเสื้อแขนสั้นมีcollarและbuttons ใส่แล้วเย็นและมีสไตล์ จึงเป็นจุดกำเนิดต้นแบบของpolo shirt

รากฐานจากกีฬาสู่แฟชั่นสากล
เสื้อโปโลมี จุดเริ่มต้น จาก สนามกีฬา โดยเฉพาะ กีฬาโปโล ซึ่ง นักกีฬา ต้องการ เสื้อผ้า ที่ สะดวก แต่ยัง สง่างาม จากนั้นนักเทนนิสอย่าง Lacoste ได้พัฒนาให้เข้ากับยุคสมัย ทำให้มัน กลายเป็น ตัวแทน ของ แฟชั่น ที่ ทุกคนใช้ได้

การพกเสื้อโปโลสะดวกไม่ยับ เก็บในรถไม่เสียรูป ต่างจากเสื้อเชิ้ตที่ต้องดูแล เล็กไม่เกะกะ เหงื่อเยอะเปลี่ยนแล้วสดชื่น หยิบใส่ได้สะดวก มีติดรถคือทางเลือกดี

ที่มาจากโปโลสู่tennis ช่วงทศวรรษ 1920 Jean René Lacoste นักเทนนิสแชมป์จากฝรั่งเศสอัปเกรดเสื้อโปโลให้ล้ำสมัย ใช้ผ้าฝ้ายน้ำหนักเบาและเย็น ทำแขนสั้นกับcrocodile เสื้อนี้ได้รับการยอมรับในsportswearและแฟชั่น นักเทนนิสคือผู้ริเริ่มที่ทำให้เสื้อโปโลแพร่หลาย

การมีเสื้อโปโลในรถสะดวกมาก เวลาเร่งด่วนเช่นต้องเจอคน มันใส่ได้ทั้งแบบลำลองและsemi-formal ผ้าคอตตอนระบายอากาศดี ถ้าต้องเปลี่ยนก็สะดวก ใส่กับยีนส์ก็เข้ากัน พกไว้ช่วยแก้ปัญหา

ใน โลก ของ เครื่องแต่งกาย ที่ หมุนเวียน อยู่ตลอดเวลา เสื้อโปโลได้ ยืนหยัด บทบาท ของมันในฐานะ ชุด ที่ เหมาะกับทุกโอกาส ไม่ว่า คุณ จะอยู่ใน งานทางการ เสื้อโปโลก็ กลายมาเป็น ชิ้นโปรด ที่ ประสาน ความสบาย เข้ากับ ความดูดี ได้อย่าง ลงตัว เราจะมาดูกันว่าเสื้อโปโลกลายเป็นสัญลักษณ์สากลได้อย่างไร

อนาคตของเสื้อโปโล
ด้วย การยอมรับ ที่ เติบโต เสื้อโปโลยังคง คงอยู่ ใน วงการแฟชั่น แบรนด์ต่างๆ อาจเพิ่มนวัตกรรมในวัสดุ เช่น ผ้าที่ระบายเหงื่อได้ดี เพื่อ เหมาะกับ การใช้ชีวิต ที่ เปลี่ยนไป

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เสื้อโปโลก็ยังคงเป็นอมตะ เพราะมันคือ เครื่องแต่งกาย ที่ อยู่เหนือ แฟชั่น ชั่วคราวได้อย่างแท้จริง

**ตรงข้าม ถ้าคุณรักความไม่ซับซ้อน คอเสื้อแบบบางที่ไม่แข็งจะลงตัวกับสไตล์ของคุณ มันสร้างความรู้สึกชิลแต่ยังมีสไตล์ เฉดสีที่ละมุน เช่น ขาว จะเพิ่มความเย็นใจให้สไตล์ ใส่คู่กับยีนส์เพื่อวันสบายๆ เหมาะกับวันหยุดที่ผู้สวมใส่ต้องการพักผ่อนโดยไม่ขาดเสน่ห์**